Monday, August 20, 2007

Ariocarpus : การเติบโต

การเลี้ยง Ario ให้สวย ออกดอก และไม่ตาย
โดย Ariomannia





การเลี้ยง Ario ให้สวย ออกดอก และไม่ตาย

ผมขอแนะนำให้เริ่มจากพันธุ์ อึดๆ ทนๆก่อนนะครับ เนื่องจาก Ario มีราคา
ค่อนข้างสูงถึงสูงมากๆ ราคาต่ำสุดในท้องตลาด 75 + จนถึงเลข 8 หลัก คุณอ่านกับไม่ผิดหรอกคับ 10 ล้าน หรือมากกว่านี้ก็มี ทำไมถึงแพงจัง ? ------ ก็เพราะว่ามันโตช้ามาก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ๆๆๆๆๆๆๆ น่ะสิครับ เลี้ยงก็ยากมาก ๆๆๆๆๆๆๆ ยิ่งเวลาเพาะเมล็ด % ขึ้นก็น้อย แถมออกดอกปีละครั้ง ในเมืองไทย ออกเฉพาะฤดูหนาว จะให้ดอกที่สมบูรณ์และมากที่สุดในฤดูนี้ ฤดูอื่นก็ได้ดอก แต่ไม่เยอะมากและหาได้ยากมากทีเดียว พันธุ์ที่ผมจะแนะนำก็พวกตระกูล A.-retusus ไม่ว่าจะเป็น Original หรือ Furru หรือ Major เลี้ยงไม่ยากเท่าไรคับ
อึดทนดี เน่ายาก ราคามีตั้งแต่ 75 ++ - 2500 หรือมากกว่านี้น่ะคับ




1. ดินท ี่ Ario ที่ดีที่สุดต้องมีธาตุอาหารเยอะ ไม่มีเชื้อรา แห้งเร็ว ดินพิเศษที่ผสม ปุ๋ยกับไฮโดรตรอนมาให ้ เหมาะเฉพาะไม้ที่โตแล้ว (มากกว่า เนื่องจากเมื่อใช้ไปนานๆ ไฮโดรตรอนจะลอยขึ้นมาทำให้ดินใต้กระถางชื้นมาก โอกาสเน่าง่ายในไม้เล็ก ) แต่ถ้าชอบความสะดวกสบาย แนะนำให้ ใช้ดินร้านท่ามะกา ผสมหินภูเขาไฟ Size เล็กผสมปลูกลงไปจะดีกว่าใช้ไฮโดรตรอน
2.
น้ำ - ให้ได้เมื่อดินแห้งเท่านั้น หน้าร้อน 3 วันครั้ง หน้าหนาว 5 วันครั้ง หน้าฝนแล้วแต่ถ้าดินแห้งแล้วค่อยรดดีกว่า จะรดเช้า หรือ เย็นไม่มีปัญหาครับ สำคัญที่ว่าดินต้องแห้ง
3.
แดด- Ario เค้าชอบแดดประมาณ 70% ใช้พลาสติกใส 4 ชั้นจะดีมากๆๆ ต้นจะสวย แต่เมื่อ Ario โดนแดดมากๆ ผิวเค้าจะเปลี่ยนเป็นสีม่วง ไปเรื่อยๆจนไหม้ เป็นตำหนิถือว่าไม่สวย




4. การนำต้นต่อลง ให้ตัดให้เหลือตอไว้สัก 1 นิ้ว เพื่อให้ตอแตกราก และเมื่อต้น Arioสัมผัสดิน รากแก้วจะงอกออกมา (อันนี้เป็นบางต้นเท่านั้น) เท่ากับว่าหากิน 2 ทาง ไม้จะโตเร็วมาก
5.
ถ้ารากเน่า หรือ ต้นเน่า ก็ให้คว้านบริเวณสีน้ำตาลออกให้หมด แล้วผึ่งทิ้งไว้ให้แห้งแล้วนำลงปลูกเหมือนวิธีชำต้น
6.
ข้อดีข้อเสียของ Ario ที่ต่อ ไม้ต่อจะโตเร็วกว่าก็จริง แต่เมื่อโตเต็มที่แล้ว จะมีขนาดเล็กกว่าไม้ราก ครึ่งนึงหรือมากกว่านั้น การให้ดอกจะให้เร็วเมื่อปุยเริ่มขึ้นก็จะให้ดอกแล้ว แต่ผสมจะไม่ติดเลย หรือน้อยมาก ๆๆๆๆๆ 5 - 10 เมล็ด แต่ไม้ต่อ
จะได้ต้นที่สมบูรณ์ ดูสวย เขียวกว่าไม้ราก และที่สำคัญราคาถูกกว่า

โดย Ariomannia



การเลี้ยงไม้ตระกูล Ariocapus

สอบถามคุณ baso

และผู้มีความชำนาญเรื่องการเลี้ยง Ariocapus ครับ

จากกระทู้ หมายเลข 3065

- กระบองทอง

- [30 ส.ค. 2549]

- ขอสอบถามการเลี้ยงไม้ตระกูล Ariocapus

เหมือนหรือแตกต่างกับการเลี้ยงกระบองเพชรพันธุ์อื่นๆ ในเรื่องของดิน ปุ๋ย

โดยเฉพาะการให้น้ำ ในไม้ขนาดเล็ก และขนาดใหญ่

เพราะเห็นบางคนบอกว่าไม้ขนาดใหญ่รดน้ำ 2 อาทิตย์ ต่อ 1 ครั้ง

จะปลอดภัยกว่า (เลี้ยงภายใต้โรงเรือน โดนแดดวันละ 6-7 ชม ต่อวัน)


ผมไม่ได้มีความชำนาญหรอกนะคับ(ดูชื่อก็รู้)

แต่ผมรด สัปดาห์ ละ ครั้ง บ้าง 2 ครั้งบ้างก็ไม่เห็นมันจะตายเลยนิคับ

โดย _มือใหม่_

[30 ส.ค. 2549]

ผมรดน้ำเมื่อดินแห่งอ่ะครับ
ดินเค้าชอบโปร่งๆ ปุ๋ย

ผมไม่ใช้ออสโมโค้ท และโพคอนเลย . .

[รดปุ๋ย 16-16-16 ตราเรือใบ

ตามอารมณ์ - - นานๆครั้ง ]

โดย NuT

[30 ส.ค. 2549]

อันนี้ผมว่าไม่ต่างนะครับ ลักษณะการเลี้ยงเหมือนกันครับ

การให้ปุ๋ยก็ไม่ต่างกันครับ

ส่วนดินนั้นผมว่า Ario เป็นไม้ที่ชอบดินที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก

การให้น้ำในไม้ขนาดเล็ก ก็ไม่ต่างอะไรกับการเลี้ยงกระบองเพชรโดยทั่วไปเลยครับ

ส่วนการให้น้ำของต้นที่มีขนาดใหญ่

ในข้อนี้ควรพิจารณากับขนาดของกระถาง

ประกอบกับขนาดของต้นด้วยนะครับ

เพราะถ้ากระถางมีขนาดใหญ่มากๆ การเก็บรักษาความชื้นก็จะมากไปด้วย

จึงทำสามารถเว้นระยะการรดน้ำไปได้นานกว่าปกติ

( ซึ่งบางครั้งผมก็เว้นระยะบ้างในไม้ใหญ่นานๆครั้ง )

แต่โดยปกติจะรดน้ำ ประมาณ 3 วันบ้าง 5 วันบ้าง

ไม่แน่นอนครับ ในไม้ใหญ่บางครั้งก็จะเว้นเป็นอาทิตย์ก็บ้างครั้งครับ

ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละช่วงครับ

สำหรับ Ario เล็ก ๆ การรดน้ำก็จะสม่ำเสมอครับเป็นประจำครับ

( และควรหมั่นเปลี่ยนดินเป็นประจำ )

โดย Mr.baso

[30 ส.ค. 2549]



งั้นผมขอแทรกกระทู้ คุณกระบองทองถามต่ออีกหน่อยนะครับ

รบกวนถามท่านผู้รู้ครับ กรณีที่Arioพวกไม้โตหน่อย อายุมาก(5-7ปี)

เกิด มีรอยไหม้เป็นวงตรงกลางใบ หรือทั้งใบ ส่วนมากเกิดจากอะไรครับ

และมีวิธีแก้ไขมั้ยครับ (นี่เป็นกรณีรูปตัวอย่าง ที่ยืมมาครับ)

โดย อดิศักกดิ์

[30 ส.ค. 2549]

จากที่เห็นนะครับ

ไม้แทบจะไม่มีการเจริญเติบโตเลยนะครับ

โดยดูจากปุยที่ปกคลุมระหว่างซอกใบ

และ สภาพดินแห้งมาก ดินขาดความอุดมสมบูรณ์

ไม่ใช่ต้นนี้ต้นเดี่ยวนะครับ

ไอ้ 2 กระถางข้างๆ ก็ไม่ได้ต่างกันเลย

จากสภาพของใบที่เป็นสีน้ำตาล

บ่งบอกถึงไม่มีน้ำเลี้ยงอยู่

ซึ่งหากเป็นไม้ที่เลี้ยงโดยได้รับดินที่อุดมสมบูรณ์

และได้รับปุ๋ยและน้ำสม่ำเสมอ

ก็จะไม่มีลักษณะเช่นอย่างในรูป

แม้ว่าใบรอบนอกจะมีอายุที่เยอะมากก็ตาม

เค้าก็จะยังคงสภาพเขียวสดและเต่ง

เหมือนใจกลางต้นอยู่เสมอ

โดย Mr.baso

[30 ส.ค. 2549]

คุณอดิศักดิ์ ครับ การวิเคราะห์ปัญหาไม้

หากจะให้ชัดเจนคงจะต้องซักประวัติละเอียด

หากดูแค่รูปแต่ไม่ทราบประวัติการปลูกเลี้ยง

คงต้องตั้งสมมุติฐานปัญหาหยาบๆไปก่อน


เจ้า A.trigonus. จากภาพที่เห็นไม่ถูกต้องแน่นอน

หากเลี้ยงในกระถางนี้เกิน 1ปีแล้ว และสุขภาพแรกปลูก

ดีกว่านี้ด้วย สิ่งสำคัญคือต้องรีบรื้อดิน

เพื่อดูปัญหา หากยังไม่พบสิ่งผิดสังเกตุ

คงต้องทบทวนและศึกษาการปลูกเลี้ยงใหม่ครับ


โดย MONT.

[31 ส.ค. 2549]

ขอบคุณ คุณMr.baso และท่าน อ.มนตรีมากๆครับ
ถ้าเช่นนั้นแล้วเรารื้อแล้วนำปลูกใหม่

ฟอร์มใบเค้ามัโอกาสจะกลับสมบูรณ์มั้ยครับ หรือว่าเหี่ยวแล้วเหี่ยวเลย

ต้องรอใบชุดใหม่ขึ้นมาแทนครับ

ขอบคุณทุกๆท่านที่ช่วยแนะนำครับ/ไกด์ครับผม

โดย อดิศักดิ์

[31 ส.ค. 2549]

คิดว่าคงต้องรอชุดใหม่ครับ

โดย บอส์ส

[31 ส.ค. 2549]

ต้องรอชุดใหม่แน่นอนครับเลยครับ

โดย Mr.baso

[31 ส.ค. 2549]

ขอบคุณครับ คุณบอส์ส และMr.baso ขอบคุณมากครับ /ไกด์ครับ

โดย อดิศักดิ์

[31 ส.ค. 2549]

ถึงคุณไกด์ Ario.ตัวนี้เป็นของคุณหรือครับ

ความจริงตัวนี้เลี้ยงไม่ยากนะ อยากทราบว่าก่อนปลูก
สภาพดีกว่านี้หรือไม่ และปลูกมานานเท่าใดแล้ว
สถานที่ปลูกเลี้ยงเป็นอย่างไร การให้น้ำรดชุ่มกี่วันครั้ง
กรุณาตอบด้วยจะได้แนะนำได้ดีกว่านี้ครับ

โดย MONT.

[31 ส.ค. 2549]

จากภาพที่คุณไกด์ ลงน่าจะเป็นภาพจากต่างประเทศ

ลักษณะการปลูกเลี้ยงคงเป็นเพราะเครื่องปลูกที่น่าจะแห้งเร็วมาก

และไม่ค่อยมีอินทรีย์วัตถุที่เป็นอาหารของต้นไม้

ทำให้ไม้ที่เลี้ยงมีสภาพที่เห็นคือแห้งจนเกินไป

จนต้นต้องดึงน้ำจากใบไปเลี้ยงทำให้ใบแห้ง

แต่เนื่องจากAriocarpus เป็นไม้ที่ทนแล้งได้เป็นเวลานาน

และมีอาหารสะสมอยู่ที่รากใต้ดินทำให้อยู่ได้โดยไม่ได้กินน้ำเลยเป็นเวลานานๆ

แต่สภาพก็จะเป็นอย่างที่เห็นในภาพที่คุณไกด์ลงไว้

หรือเป็นแบบที่อยู่ในธรรมชาติ

ถ้าเราต้องการให้ Ariocarpus ที่เลี้ยงอยู่มีสภาพสวยงาม

เขียวสดใสแบบญี่ปุ่นก็คงต้องเลี้ยงในโรงอบแบบญี่ปุ่น

ต้นไม้จะดูเขียวสดใสมาก

เพราะในโรงอบจะยังคงมีความชื้นอยู่ไม่ระเหยออกไปหมด

ทำให้ผิวต้นไม้ไม่กร้านแดดแต่จะดูสดใสตลอด

ลองสังเกตุจากไม้ญี่ปุ่นที่นำเข้ามาใหม่ๆได้จะเป็นลักษณะนี้หมด

แต่เมื่อมาอยู่ที่บ้านเราไม่นานผิวที่เขียวสดใสเป็นเงางามดั่งกับทาแวกซ์ก็จะหายไป

ธรรมชาติของAriocarpusต้นด้านบนชอบร้อนแต่ระบบรากชอบเย็น

เทคนิคการเลี้ยงของญี่ปุ่นคือปลูกในกระถางทรงสูง

จะทำให้ความชื้นที่อยู่ก้นกระถางทำให้ระบบรากและเครื่องปลูกเย็นกว่าในกระถางตื้น

โรงอบจะมีส่วนช่วยเพิ่มอุณหภูมิในเวลากลางวัน

ทำให้ความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างกลางวันและกลางคืน

มีมากขึ้นเหมือนหรือใกล้เคียงกับที่อยู่ในธรรมชาติ

ซึ่งความแตกต่างของอุณหภูมินี้จะเป็นตัวกระตุ้นเมตาโบลิซึ่มของต้น Ariocarpus

ทำให้โตเร็วขึ้น

การให้น้ำของAriocarpusก็มีหลักเดียวกันกับแคคตัสอื่น

คือให้น้ำเมื่อเครื่องปลูกเริ่มแห้ง

ซึ่งแต่ละที่มีปัจจัยแตกต่างกันเช่น เครื่องปลูก แต่ละคนจะแตกต่างกัน ,

สถานที่เลี้ยง แดด ลม อุณหภูมิ, วิธีและนิสัยการรดน้ำของแต่ละคน

ซึ่งยากที่จะกำหนดว่ากี่วันรดน้ำ

แต่ถ้าเรายึดหลักคือรดน้ำเมื่อเครื่องปลูกเริ่มแห้ง

ก็หมดปัญหาและสามารถปรับใช้ได้กับทุกพันธุ์ครับ


โดย เดียว

[31 ส.ค. 2549]


สวัสดีครับอาจารย์และคุณเดียว

ต้นนี้นี่ เป็นกรณีศึกษารูปตัวอย่าง ที่ยืมรูปมาครับ

ของผมเป็น retusus ได้มามาจากรังแห่งหนึ่งของลำปางครับ

อาการน้อยกว่าต้นนี้ครึ่งนึงตอนที่ได้มา(ได้มาราคาถูกๆกะจะเอาแค่ดอก ทำเมล็ด)

และไม่ได้เป็นที่ผม เลยไม่สามารถบอกได้ว่าเขาเลี้ยงยังไง

แต่เท่าที่ผมรื้อดินเก่าออกดู พบว่ามีแต่ทรายกับโฟมเม็ดๆที่ผสมกันอยู่ครับ

เลยกังวลว่ามันจะหายหรือว่าจะลามต่อไปเรื่อยๆครับ

และต้องขอบพระคุณ คุณเดียว

ที่ให้แนวทางการเลี้ยงให้ศึกษาอย่างดีเยี่ยมเลยครับ

ขอบคุณทุกท่านครับ ด้วยความเคารพยิ่งครับ /ไกด์ครับผม

โดย อดิศักดิ์

[31 ส.ค. 2549]


คุณอดิศักดิ์ครับ เปลี่ยนดินใหม่ ดินผสมควรมีธาตุอาหาร และดินควรโปร่ง ถ้าจะให้ดีเลี้ยงในกระถางดินเผา

ไม้จะสมบูรณ์ เพราะ ไทรโกนัส ของผมก็เป็นอย่างของคุณ แต่ตอนนี้สมบูรณ์แล้วครับ

โดย พฤกษาชน คนรักไม้

[1 ก.ย. 2549]

ขอบคุณครับ คุณพฤกษาชน คนรักไม้

ในคำชี้แนะมากๆครับ

ได้ฟังแล้วค่อยมีความหวังขึ้นมาครับ

ขอบคุณมากๆครับ

ด้วยความเคารพยิ่งทุกๆท่านครับ/ไกด์ครับ

โดย อดิศักดิ์

[1 ก.ย. 2549]

ผ่านมาชม ครับ พี่เดียวอธิบายไว้ได้ดีแล้วคร้าบ

โดย Rich

[4 ก.ย. 2549]








รบกวน mr.baso ขอศึกษาภาพต้นอ่อนของ ariocarpus หน่อยครับ

รบกวน mr.baso หรือพี่ๆหลายๆท่านในบอร์ดนี้ที่มีภาพต้นอ่อนของ ariocarpus พันธ์ไหนก็ได้ครับ อยากจะศึกษาการเจริญเติบโตน่ะครับ รบกวนด้วยนะครับ รบกวนลงข้อแตกต่างให้ด้วยนะครับ เช่น หนึ่งเดือน ครึ่งปี หนึ่งปี ขอบคุณล่วงหน้าครับ

โดย NuT -30 ส.ค. 2548]





ผมมีอยู่รูปนึง แต่วันที่เพาะจำไม่ได้น่ะ ไว้ดูโพยแล้วจะมาบอกอีกทีครับ

วันที่เพาะในรูปบนคือ 23 ต.ค. 47 นะครับ

โดย โอภาส 2 ก.ย. 2548





จำวันไม่ได้นะครับ แต่ประมาณ 2-3 ปีอะครับ เจ้าพวกนี้เป็นลูกผสม trigonus retusus furfuraceus ที่มัวกันไปหมดเลย แต่ว่าก็สวยดีครับ เพราะเจ้าพวกนี้พอโตมา มีหลายแบบมากเลยครับ (MyCollection) ยังไม่จำหน่ายครับ เอาไว้ดูตอนมันโต และออกดอกแล้วครับ อยากเห็นตอนโตนะครับว่าหน้าตาจะหล่อจะสวยแค่ไหน

โดย mr.baso 3 ก.ย. 2548





เจ้าพวกนี้ก็ประมาณ 3-4 ปี แต่เจ้าสามต้นนี้เป็นชุดหัวไม้ ที่โตไวกว่าต้นอื่นๆนะ
หมายเหตุ เจ้าพวก trigonus retusus furfuraceus จะโตไวกว่าพวก fissu , fissu v.ต่างๆ , bravoanus , kotschoubeyanus , scapharostrus

อันนี้ไม่นับเจ้าพวกลูกผสมหรือ v ตัวใหม่ๆๆ นะ เพราะยังไม่ค่อยเคยเลี้ยงนะ

โดย mr.baso 3 ก.ย. 2548










Ariocarpus : โทรมหรือเปล่าครับ


อย่างนี้เขาเรียกว่าโทรมรึปล่าว ช่วยดูหน่อย


เพิ่งได้มา คนขายบอกว่าอายุประมาณ7ปีแล้ว

โดย golfy [1 ต.ค. 2548]



ส่วนเจ้านี่กำลังออกดอกแต่หาคู่ให้ไม่ทันแล้ว

โดย golfy

[1 ต.ค. 2548]


เห็นต้นก็รู้แล้วครับว่าได้มาจากร้านลุงวิชิต ไม่ได้โทรมหรอกครับ แต่ว่าไม้ไม่ได้ให้ปุ๋ยนะครับ เลี้ยงแบบไปเรื่อยๆๆ มากไปหน่อยนะครับ ใช่ครับไม่ประมาณ 7 ปี แต่ถ้าคุณเอาไปเลี้ยงแล้วให้ปุ๋ยสม่ำเสมอรับรองได้เลยครับ ว่าอีก 2 ปี คุณจะไม้ต้นไม้ที่ใหญ่กว่าเดิมมากเลยครับ แล้วฟอร์มใบจะสวยกว่าตอนนี้อีกเยอะครับ

เพราะผมก็เป็น 1 คนที่ได้ fissu ของลุงแกมาเลี้ยงเหมือนกันครับ



fissu
ในรูปเป็นของลุงแกนะครับ ได้มาประมาณ 2-3 ปีที่แล้ว ตอนได้มาก็ต้นเท่า ของคุณในรูปแหละครับ ส่วนเจ้าต้นที่โรยหินส้มเป็นไม้เพาะเองอะครับ และอื่นๆๆก็มาจากหลายที่

โดย mr.baso [2 ต.ค. 2548





การเจริญเติบโต


Toon

29 July 2005


เพิ่งได้มา.. .ตอนนี้ยังเล็กมาก ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลา งไม่ถึงสองเซนติเมตร
อยากถามผู้รู้ว่า.. .ถ้าผมเลี้ยงได้ดีดี ผ่านไป 1 ปี จะได้ขนาดประมาณเท่าไรครับ
ทั้งสองชนิด การเติบโตจะต่างกันหรือไม่

สมภพ ร้านเรือนกระบองเพชร

29 July 2005


เลี้ยงดี ๆ และโตอย่างต่อเนื่อง 1 ปี น่าจะได้ขนาดสัก1.5 - 2 นิ้ว ครับ คุณตูนอย่าลืมตัดรากปลูกใหม่สัก 6 เดือนครั้งน๊ะครับ เวลาตัดรากก็ตัดรากให้กุดเลยน๊ะครับ เพื่อกระตุ้นให้มีรากใหม่ ๆ และมีประสิทธิภาพในการหาอาหาร เมื่อตัดแล้วก็ผึ่งไว้สัก1-2 วัน แล้วปลูกในดินปลูกที่มีดินใบก้ามปูผสมไว้ในอัตราส่วน ดินปลูกกระบองเพชร 3 ส่วน ต่อ ดินใบก้ามปู 1 ส่วนน๊ะครับ และใส่ปุ๋ยออสโมโค๊ดสัก20 เม็ด ใส่ในกระถาง 6 นิ้วได้เลยครับ รับรองโตเร็วเห็น ๆ ของผมต้นใหญ่ ๆ ที่เคยลงรูปไว้ 3 ปีเองครับ

Toon

30 July 2005


ขอบคุณมากครับคุณสมภพที่ให้คำแนะนำอีกครั้ง
คำแนะนำที่โชว์ในกระทู้...เป็นทั้งความรู้ใหม่ๆของผม
และยังช่วยย้ำเตือนความจำได้ดีมากๆเลยครับ

Toon

3 Aug 2005


ได้ต้นอาริโอต่อตอเล็กๆของพี่เบิร์ดมาถ่ายใหม่อีกต้น
ดูแล้วสงสัยผมต้องไปหามาเลี้ยงด้วยซ่ะแล้วนิ

ริม

7 Aug 2005


ถามพี่สมภพเพิ่มนิดนึงครับ

ที่พี่บอกว่าตัดให้กุดนี่หมายถึงให้เหลือแต่ตอเลยใช่มั้ยครับ? แล้วพอผึ่งแดดสัก 2 วันแล้วเอาไปลงดินต้องรดน้ำแตกต่างจากไม้ทั่วไปอย่างไรครับ เพราะผมคิดว่าตอนไม้กำลังออกรากน่าจะกินน้ำไม่เก่งเหมือนไม้ที่รากเดินดีแล้ว เราควรจะให้น้ำน้อยหรือห่างวันกว่าไม้ปกติหรือเปล่าครับ ? รบกวนพี่สมภพด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

สมภพ ร้านเรือนกระบองเพชร

7 Aug 2005


คุณริมครับตัดให้กุดนั้นผมหมายถึงตัดรากของตอออกให้หมดเลยนะครับ เหลือแต่ตอห้วนๆ แบบไม่มีรากเลยนะครับ แล้วคุณริมจะผึ่งไว้ 2 วันก่อนค่อยปลูกก็ได้ครับ จากนั้นเราก็รดน้ำให้ชุ่มเลย แต่รอให้ดินแห้งก่อนจึงค่อยรดครั้งต่อไป เมื่อแน่ใจว่ารากเริ่มออกดีแล้วจึงค่อยรดน้ำได้บ่อยขึ้นครับ (ทางที่ดีควรผสม บี1 + ยากันเชื้อรา รดให้สักครั้งสองครั้งแรกของการรดน้ำจะช่วยให้ต้นไม้เราปลอดภัยจากการเน่า และ ฟื้นตัวได้เร็วขึ้นนะครับ)

ริม

8 Aug 2005


ขอบคุณพี่สมภพครับ







Ariocarpus : เผือก


Ariocarpus alba (เผือก)

Cactomania [12 ก.พ. 2550]

เผอิญไปเจอในเวปของฝรั่งเศส สำหรับผู้สนใจ Ariocarpus เผือก เจ้าของบอกว่ายังไม่ตายถ้าตายจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ผมก็ไม่แน่ใจว่าเป็นตัวจริงหรือเปล่า ต้องถามผู้ที่มีประสบการณ์ เช่น คุณ Baso

Cactomania [12 ก.พ. 2550]

อิอออ...............ลงรูปให้แล้วครับจะได้ไม่ต้องตามไปดู

ถ้าจะให้ตอบแบบตรงตรงก็ไม่ตายก็คงเลี้ยงไม่โตต่อไปจากนี้แล้วล่ะครับ แต่ผมว่าต่อจากนี้คงตายครับ ต้นไม้คงไม่สามาถรอยู่รอดได้หากเป็นแบบนี้ แต่ถ้าเป็นสีตว์เผือกก็ว่าไปอย่างครับ

อันนี้ไม่รู้จริงจริงครับ หากจะให้สันนิษฐาน ก็จะขอเดาว่าก่อนหน้านี้คงจะออกอาการด่างเนื้อเยอะมากมากจนตอนหลังเป็นแบบนี้ จะคล้ายๆ พวกแอสโตรบางต้นที่ว่าตอนเล็ก ๆก็ด่างดีแต่พอโตขึ้นนปริมาณความด่างยิ่งทวีคูณจนควบคุมไม่ได้จนกระทั้งหมดทั้งต้นแล้วสีด่างก็จะซีดลงๆ จนคล้ายกับ Ario อย่างในรูปแล้วก็ไม่โตและตายไปในที่สุดครับ

อันนี้เดาสุ่มแล้วก็มั้วจริงจริงเดอ..........

Mr.baso [13 ก.พ. 2550]

ขอบคุณ คุณ baso มากครับที่ให้ความเห็น ผมไม่ทราบว่าในบ้านเรามีการเพาะ Ario กันมากพอสมควร ไม่ทราบว่ามีใครเพาะได้ตัวเผือกหรือเปล่าครับ ไม่ทราบว่าอยู่ได้อย่างไรเหมือนกัน ดูแล้วไม่เห็น คลอโรฟิลเลย สำหรับสังเคราะห์แสงเพื่อนำมาสร้างอาหาร

Cactomania [12 ก.พ. 2550]

ผมวิเคราะห์ว่าถ้าไม้ตัวนี้เป็นของจริง ก็เป็นไปได้ว่าตั้งแต่เธอยังเล็กๆอยู่ เธอคงจะด่างเพียงพอที่จะเติบโตได้ แต่เมื่อโตมาในระดับหนึ่งแล้ว อาการด่างเขียวไม่ขยาย แต่ขยายในส่วนที่เป็นเผือกอย่างเดียว อนาคตเกิดความไม่สมดุลย์ต่อการเลี้ยงตนเองได้ เธอก็จะอ่อนแอลง ทางแก้ไขที่จะให้อายุยาวขึ้น ควรนำขึ้นตอมากกว่าครับ ท่านอื่นช่วยวิเคราะห์ต่อด้วย
เพื่อจะได้ความรู้ที่ถูกต้องที่สุดครับ

โดย MONT. [13 ก.พ. 2550]

ตายครับ
ต้นที่บ้านก็เคยเป็นแบบนี้แล้วก็แห้งไป

โดย กิ๊กซี่ [13 ก.พ. 2550]


ที่บ้านก็มีครับแบบนี้เหมือนกันเดะเลย แต่เป็นต้นที่ตายแล้วนะครับเหลือแต่เปลือกที่แข็งๆ ไม้ที่ไม่มีสีเขียวเลยแต่ใบเหมือนตัวธรรมดาเดะ คงเป็นไปได้ยากอะที่บ้านมีอนย่างในรูป แต่เป็นซากไม้ทั้งสิ้นครับ เหมือนของคุณ กิ๊กซี่

ต้นนี้ตัวอย่างครับ ลาโลกไปแล้วแต่ผิวยังแข็งอยู่เลยเอามาประดับห้อง

โดย Golfcactus [13 ก.พ. 2550]

ขอบคุณทุกท่านครับที่ให้ความเห็น ผมก็เห็นด้วยกับอาจารย์มนตรี ตอนแรกอาจจะด่างไม่มาก พอโตขึ้น การสร้างเม็ด คลอโรฟิลผิดปกติไป อาจจะเกิดจากความผิดปกติของยีนที่ควบคุมการสร้างเม็ดสีมีมากขึ้น ทางที่อาจจะรอดขึ้นการต่อยอด

โดย Cactomania [13 ก.พ. 2550]





Ariocarpus นำเข้า


ario นำเข้าต้นใหญ่ๆเอามาเลี้ยงบ้านเราจะโตเหมือนญี่ปุ่นไหมครับ หรือจะโทรมลง และถ้าไม่มีโรงเรือนแบบเขา จะเลี้ยงได้ใหญ่ขนาดไหนครับ

1

23 เม.ย. 2547



โดย arioaholic

23 เม.ย. 2547

ก็เลี้ยงได้เท่าขนาดที่ยีนเค้าให้มาแหละครับ เลี้ยงเมืองไทยโตแน่นอน
ถามว่าเลี้ยงแล้วจะโทรม ตอบได้ 2 อย่างคือ โทรมและไม่โทรม อย่างคุณมารุตก็เลี้ยงได้สวยครับ ไม่โทรมด้วย โรงเรือนก็ไม่เห็นเหมือนกับของญี่ปุ่นด้วยครับ
อยู่ที่การบำรุงรักษาของแต่ละคนครับ
ถ้าเป็นไม้ต่อส่วนมาก เลี้ยงแล้วจะใหญ่ได้แค่ครึ่งเดียวของต้นจริงครับ หรือน้อยกว่านี้ด้วยซ้ำครับ

คุณอยากให้เค้าโตดี เนี่ยนะ พอเค้าเริ่มใหญ่คับกระถางแล้ว คุณต้องรีบเปลี่ยนกระถางครับ ไม่งั้นเค้าจะชะงักการเติบโตครับ และอาจจะไม่โตตลอดไปครับ



ขอบคุณ คุณarioaholic ครับได้ความรู้จากเวปนี้เยอะก็เพราะคุณ :-)

1

25 เม.ย. 2547


No comments: